เปรียบเทียบ เครื่องดูดไรฝุ่นธรรมดากับเครื่องดูดไรฝุ่นมือถือ ซื้อแบบไหนดี?

เมื่อคุณต้องการดูแลรักษาความสะอาดของที่นอนให้สดชื่นหอมฟุ้งเหมือนใหม่ การเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่นอนที่ช่วยอำนวยความสะดวกของคุณนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยมันมีประเภทหลักให้เลือก 2 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ คือ แบบมีสายไฟและแบบมือถือ แต่จะเลือกอย่างไรดีให้เหมาะสมที่สุดกับความต้องการของคุณกันล่ะ? ในบทความนี้จะมาไขกระจ่างทุกข้อสงสัยของทั้งสองประเภทนี้กัน โดย เปรียบเทียบ เครื่องดูดไรฝุ่นธรรมดากับเครื่องดูดไรฝุ่นมือถือ อย่างละเอียด ไปดูกันได้เลย

 

ข้อดีและข้อเสียของเครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมีสายไฟ

ข้อดีของเครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมีสายไฟ:

1. การใช้กำลังไฟฟ้าที่ต่อเนื่อง: เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสายไฟจะได้รับกระแสไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟโดยตรง ทําให้ความแรงของการดูดฝุ่นไม่ขาดตอน
2. ราคา: โดยทั่วไปแล้ว เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสายจะมีราคาถูกกว่าแบบไร้สาย
3. ประสิทธิภาพ: ด้วยแหล่งจ่ายไฟที่สม่ำเสมอ เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสายมักจะมีกําลังดูดที่แรงกว่ามาก ทำให้มั่นใจได้ว่าทำความสะอาดได้ละเอียดยิบทุกซอกมุม

ข้อเสียของเครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมีสายไฟ:

1. จํากัดการเคลื่อนไหว: เนื่องจากสายไฟในบางรุ่นอาจสั้นเกิดไป ทำให้จํากัดการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะถ้าต้องการเอื้อมไปถึงมุมห่างๆ ของเตียง หรือถ้าเต้ารับไฟอยู่ไกลออกไปก็จะขยับได้ลำบาก จึงต้องหาเต้าปลั๊กเสียบเสริมเพื่อขยายระยะการทำความสะอาด
2. การเก็บรักษา: ด้วยขนาดที่ใหญ่ทำให้การเก็บนั้นค่อนข้างไม่สะดวกและต้องการพื้นที่จัดเก็บในบ้านของคุณ

รู้หรือไม่ว่ามีประเภทของเครื่องดูดฝุ่นที่นอนมีหลายรูปแบบให้เลือก คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจ เครื่องดูดฝุ่นที่นอนคุณสมบัติและการใช้งานที่ควรรู้ก่อนซื้อ

 

ข้อดีและข้อเสียเครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมือถือ

ข้อดีของเครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบไร้สายไฟ:

1. มีความคล่องตัว: เนื่องจากไม่มีสายไฟให้พันรุงรังหรือจำกัดการเคลื่อนไหว ทําให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะการทําความสะอาดที่นอนขนาดใหญ่หรือเตียงนอนสองชั้นที่ค่อนข้างสูง
2. กะทัดรัด: หลายรุ่นของเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายมีรูปทรงเรียวบาง ง่ายต่อการเก็บ
3. รวดเร็วทันใจ : เหมาะสําหรับการทําความสะอาดอย่างรวดเร็วเพียงกดปุ่มเปิดใช้งาน โดยไม่ต้องเสียเวลาเสียบถอดปลั๊กให้ยุ่งยาก

ข้อเสียของเครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบไร้สายไฟ:

1. อายุการใช้งานแบตเตอรี่: เวลาในการทําความสะอาดจํากัดอยู่ที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ เมื่อแบตเตอรี่อ่อนลงก็ต้องชาร์จใหม่ทุกครั้ง
2. ราคา: โดยทั่วไปแล้ว เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายมักจะมีราคาแพงกว่า เนื่องจากต้องใช้แบตเตอรี่และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่อง เช่น รังสียูวีซี เป็นต้น
3. ประสิทธิภาพตามกาลเวลา: เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพส่งผลให้ประสิทธิภาพของเครื่องดูดฝุ่นอาจลดลง คุณอาจต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

ถ้าคุณสนใจว่าเครื่องดูดไรฝุ่นเกี่ยวข้องต่อสุขภาพได้ยังไง เราแนะนำให้คุณศึกษาเพิ่มเติมจากบนความนี้ เครื่องดูดฝุ่นที่นอนกับสุขภาพและการนอนโดยรวม เกี่ยวข้องกันอย่างไร?  เพื่อตระหนักถึงความสำคัญของอุปกรณ์นี้ยิ่งขึ้น

 

เปรียบเทียบ เครื่องดูดไรฝุ่นธรรมดากับเครื่องดูดไรฝุ่นมือถือ

หัวข้อต่อไปนี้ เป็นการเปรียบเทียบเครื่องดูดฝุ่นทั้งสองประเภท เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือดซื้อได้ง่ายขึ้น โดยมีหัวข้อดังนี้

• แหล่งจ่ายไฟ

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมีสายไฟ : จ่ายกระแสไฟฟ้าผ่านสายไฟ

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมือถือ : ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่และแบตเตอรี่สามารถชาร์จไฟได้

• ความคล่องตัว

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมีสายไฟ : ความยาวของสายในบางรุ่นจำกัดพื้นที่ทำความสะอาด บางยี่ห้อตัวเครื่องค่อนข้างมีน้ำหนัก ทำให้เคลื่อนย้ายไม่สะดวกนัก

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมือถือ : ถือใช้งานได้สบาย มีน้ำหนักเบา สามารถทำความสะอาดได้อย่างคล่องแคล่ว

• ราคา

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมีสายไฟ : ราคามักจะถูกกว่าแบบไร้สาย

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมือถือ : ส่วนใหญ่มักจะราคะแพง แต่มักพ่วงกับเทคโนโลยีเสริม

• ประสิทธิภาพและความเเข็งแรง

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมีสายไฟ : พลังดูดคงที่และสม่ำเสมอ

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมือถือ : พลังดูดอาจลดลงเมื่อแบตเตอรี่อ่อนกำลัง

• การเก็บรักษา

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมีสายไฟ : ใช้พื้นที่กว้างพอสมควรเพราะมีสายไฟต้องเก็บ และขนาดของเครื่องที่ใหญ่

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมือถือ : กะทัดรัดกว่า เก็บง่ายสะดวกสบาย

• เหมาะสําหรับการทําความสะอาดนานๆ

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมีสายไฟ : สามารถทำความสะอาดได้นานเพราะใช้กำลังจ่ายไปจากเต้าเสียบโดยตรง

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมือถือ : ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานแบตเตอรี่

เมื่อคิดถึงเครื่องดูดฝุ่น หลายคนสงสัยความแตกต่างระหว่างเครื่องดูดฝุ่นธรรมดาและเครื่องดูดฝุ่นที่นอน หากสนใจสามารถดูได้จากบทความ เครื่องดูดไรฝุ่น vs เครื่องดูดฝุ่นธรรมดา เลือกยังไงให้เหมาะกับการใช้งาน

 

ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนดี

การตัดสินใจเลือกระหว่างเครื่องดูดฝุ่นที่นอนแบบมีสายไฟหรือไร้สายไฟ ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแต่ละคน หากบ้านมีขนาดใหญ่และมีเตียงหลายตัว หรือต้องการทําความสะอาดแบบไม่ขาดตอน เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสายไฟอาจเหมาะสมกว่า ในทางกลับกันถ้าให้ความสําคัญกับความคล่องตัวและต้องการใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อทําความสะอาดอย่างรวดเร็ว เครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือก็เหมาะสมเช่นกัน

ปัจจัยอีกอย่างที่ควรพิจารณาคือตําแหน่งของเต้ารับไฟในบ้าน หากเต้าไฟอยู่ไกลจากเตียง อาจทําให้ยากต่อการใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย หากต้องการดูรายชื่อผลิตภัณฑ์ที่เราได้คัดเลือกมาให้คุณได้จากบทความนี้ 10 เครื่องดูดฝุ่นที่นอนยอดนิยม

 

สรุปข้อเปรียบเทียบ

เครื่องดูดฝุ่นที่นอนทั้งแบบมีสายไฟและแบบมือถือ ต่างก็มีข้อดีข้อเสียเป็นของตัวเอง สิ่งสําคัญคือการประเมินลักษณะการทําความสะอาดที่คุณถนัด, ขนาดของบ้าน, และงบประมาณก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ไม่ว่าจะเลือกรุ่นใด การทําความสะอาดที่นอนอย่างสม่ำเสมอก็เป็นเรื่องสําคัญเพื่อการนอนหลับที่ดีและมีสุขภาพที่แข็งแรง เพิ่มเติมอีกอย่าง หากคุณอยากทราบความถี่แนะนําในการทําความสะอาด สามารถอ่านได้จาก ควรดูดฝุ่นที่นอนบ่อยแค่ไหน เพื่อกำจัดไรฝุ่นตัวร้ายในบ้านของคุณ

 

การละเลยไม่ดูดฝุ่นที่นอน สามารถนําไปสู่ปัญหาต่างๆ มากมาย เช่น การสะสมของไรฝุ่น, การเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้, อายุการใช้งานของที่นอนสั้นลง, และกลิ่นไม่พึงประสงค์จากสิ่งสกปรกที่หมักหมม การทําความสะอาดเตียงนอนเป็นประจำไม่เพียงแต่รักษาความสะอาดเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มีสภาพแวดล้อมการนอนหลับที่สะดวกสบายและส่งแสริมการมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย การใช้เครื่องดูดฝุ่นที่นอนโดยเฉพาะ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการทําความสะอาดเตียง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้ที่พักผ่อนอันสงบสุขตลอดคืน

 

คําถามที่พบบ่อย

1. ควรดูดฝุ่นที่นอนบ่อยแค่ไหน

โดยทั่วไป ควรดูดฝุ่นที่นอนทุก ๆ 2-3 เดือน แต่หากมีผู้ใช้เตียงคนใดมีอาการแพ้ง่าย หรือที่นอนเปรอะเปื้อน อาจต้องทําความสะอาดบ่อยครั้งขึ้น

2. สามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นทั่วไปกับที่นอนได้ไหม

ได้สิ แต่เครื่องดูดฝุ่นที่นอนจะมีประสิทธิภาพในการกําจัดไรฝุ่นและสิ่งก่อภูมิแพ้อื่นๆ มากกว่า เนื่องจากมีแสง UV และคุณสมบัติอื่นๆ ที่ออกแบบมาเฉพาะสําหรับที่นอน

3. การดูดฝุ่นที่นอนจะกําจัดเชื้อไรเตียงได้หมดไหม

การดูดฝุ่นอาจช่วยลดจํานวนไรเตียงได้บ้าง แต่อาจไม่สามารถกําจัดหมดทั้งหมด หากมีการระบาดรุนแรง ควรพิจารณาใช้วิธีการกําจัดแบบมืออาชีพ

4. หลังจากดูดฝุ่นแล้ว ควรทําอะไรเพิ่มเติมบ้าง

หลังจากดูดฝุ่น ควรผึ่งลมที่นอนให้แห้งเป็นเวลาหลายชั่วโมง หากเครื่องดูดฝุ่นมีไฟ UV จะช่วยฆ่าเชื้อโรคบนที่นอนได้ นอกจากนี้ การใช้ที่นอนปูทับยังช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้เช่นกัน

 

อ้างอิง :

1. Katie Mortram, “Are cordless vacuum cleaners worth it? Here are the pros and cons”, Tom’s Guide, January 14, 2023, https://www.tomsguide.com/features/are-cordless-vacuum-cleaners-worth-it-here-are-the-pros-and-cons.
2. Isobel Bryant, “How to buy the best vacuum cleaner for your home”, Independence, April 14, 2021, https://www.independent.co.uk/extras/indybest/house-garden/vacuum-cleaners/vacuum-cleaner-best-guide-which-cordless-dyson-robot-hoover-handheld-buy-a9503851.html.
3. Michelle S, “Cordless vs. Corded Vacuum: Which One Should You Choose?”, Abt, September 25, 2022, https://www.abt.com/learn/cordless-vs-corded-vacuum.